เอาใจคนรักหวาน สับปะรดสายพันธุ์ใหม่ “เพชรบุรี 2” คลอดแล้วจ้า

กรมวิชาการเกษตร ส่ง “เพชรบุรี 2” สับปะรดพันธุ์ใหม่ ลักษณะเด่น ผลทรงกระบอก แกนเล็ก ตาตื้น ช่วยลดการสูญเสียเนื้อเมื่อเข้าเครื่องปอก คุ้มแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง แถมค่าความหวานเฉลี่ยยังชนะพันธุ์ดั้งเดิมปัตตาเวียอีกด้วย

นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เผยว่า สับปะรดเป็นผลไม้ที่สร้างมูลค่าการส่งออกให้กับประเทศไทย ปีละไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งงานวิจัยและพัฒนาส่วนมากที่ผ่านมา เน้นไปที่การเขตกรรม และการอารักขาพืช ทำให้พันธุ์สับปะรดที่ปลูกก็ยังคงเป็นสายพันธุ์เดิม ซึ่งปริมาณผลผลิตต่อไร่ โดยเฉลี่ยแล้ว อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อีกทั้งด้วยการปลูกพันธุ์เดิมติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการกลายลักษณะที่ไม่พึงประสงค์มากยิ่งขึ้น

สับปะรดพันธุ์ใหม่ โดนใจอุตสาหกรรมแปรรูป

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า การคัดเลือกสายต้นเป็นแนวทางการปรับปรุงพันธุ์วิธีการหนึ่งที่ใช้ระยะเวลาสั้น จึงได้ทำการคัดเลือกสายต้น โดยมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อให้ได้สายพันธุ์ใหม่ ที่ให้ผลผลิตที่ไม่น้อยลง และมีลักษณะที่เหมาะสมต่อการนำไปแปรรูปตามความต้องการของโรงงาน ซึ่งได้แก่ ผลมีลักษณะเป็นทรงกระบอก ตาตื้น แกนผลเล็ก เพราะจะทำให้ได้เนื้อสำหรับการแปรรูปสูง มีอัตราการสูญเสียเนื้อต่ำ
จึงได้ดำเนินการคัดเลือกสายต้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้สับปะรดพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลผลิตไม่น้อยกว่าพันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้า และมีลักษณะเหมาะสมสำหรับการแปรรูปตรงตามความต้องการของโรงงาน ได้แก่ ผลมีลักษณะเป็นทรงกระบอก ตาตื้น แกนผลเล็ก เพื่อให้ได้ปริมาณเนื้อสำหรับแปรรูปสูง และมีอัตราการสูญเสียเนื้อต่ำ

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี ได้เริ่มดำเนินการวิจัยและปรับปรุงสายพันธุ์เมื่อปี พ.ศ. 2534 และประสบความสำเร็จได้สับปะรดพันธุ์ใหม่ผ่านการพิจารณาเป็นพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตรในปี พ.ศ. 2562 ใช้ชื่อพันธุ์ว่า “สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 2” โดยมีลักษณะเด่น คือ
1. มีอัตราส่วนน้ำหนักเนื้อต่อน้ำหนักผลเฉลี่ยเท่ากับ 0.29 ซึ่งสูงกว่าพันธุ์ปัตตาเวีย
2. แกนผลเล็ก
3. ตาตื้น ความลึกตาเฉลี่ย 0.73 – 0.81 ซม.
4. มีผลทรงกระบอกซึ่งเหมาะสำหรับการบรรจุกระป๋อง
5. ค่าความหวานเฉลี่ย 13.9 – 17.9 องศา บริกซ์

ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ